การบ้านครั้งที่ 2 ไมโครไฟเบอร์ และนาโนไฟเบอร์
+8
Pitchaya
poommarin
jatarat off
saharat
rungsawat munmanee
man
chatree sarika
Admin
12 posters
เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ (TTCEXPERT.COM) :: เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ เว็บไซท์สำหรับศิษย์เก่า นักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีสิ่งทอ และผู้สนใจทุกท่าน สอบถามข้อมูล :: ส่งการบ้านวิชา Fiber Science 53145TFE
หน้า 1 จาก 1
การบ้านครั้งที่ 2 ไมโครไฟเบอร์ และนาโนไฟเบอร์
ให้นักศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับไมโครไฟเบอร์ และนาโนไฟเบอร์มาโพสต์ไว้ที่นี่ เนื้อหาจะนำไปเป็นข้อสอบ 1 ข้อ
หมดเขตโพสต์วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2554 เวลา 18.00 น. ครับ
หมดเขตโพสต์วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2554 เวลา 18.00 น. ครับ
นายชาตรี สาริกา รหัส 115310452233-5 (TFE 53145)
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
chatree sarika- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายสิวะวัฒน์ จันทร์มณี รหัส 115310452218-6 [TFE 53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
man- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายรุ่งสวัสดิ์ มันมณี รหัส 115310452232-7 [TFE 53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
rungsawat munmanee- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายสหรัฐ บุญเสือ รหัส 115310452234-3 [TFE 53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
saharat- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายเจตรัตน์ บุญมีรัตนโยธิน รหัส 115310452230-1 [TFE 53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
jatarat off- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 28/06/2011
นางสาวภุมรินทร์ บาลี รหัส 115310452217-8 [TFE53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
poommarin- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายพิชญ ราตรี รหัส 115310452208-7 [TFE 53145]
ไมโครไฟเบอร์
หากลองนับย้อนไปถึง ที่มาของเส้นใยประดิษฐ์ ที่เราได้ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ จะพบว่า มนุษย์ได้ใช้ความพยายาม ในการพัฒนามาเป็นเวลานานมากทีเดียว นับจากปี ค.ศ. 1664 ที่ โรเบิร์ต ฮุก (Robert Hooke) นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ได้จุดประกายแนวความคิดไว้ว่า “การผลิตเส้นใยประดิษฐ์ สามารถทำได้โดยการอัดรีด ของเหลวผ่านรูเล็กๆ ให้เป็นเส้นยาวอย่างต่อเนื่อง แล้วทิ้งให้เย็นหรือแข็งตัว” แต่กว่ามนุษย์จะผลิตเรยอน (Rayon) ซึ่งเป็นเส้นใยประดิษฐ์ ชนิดแรกได้สำเร็จ ก็ต้องใช้เวลาอีกกว่า 200 ปีต่อมา หลังจากนั้นวิวัฒนาการ ของการผลิตเส้นใยชนิดต่างๆ อาทิ ไนลอน พอลิเอสเทอร์ อะคริลิก ไลโอเซลล์ และเส้นใยอื่นๆ จึงได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
การพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียด หรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่า เส้นใยไหมมาก กล่าวกันมา ด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์ บางชนิดนั้นสามารถนำมา พันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์ และไนลอน การนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้น อาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมด หรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มี สมบัติพิเศษหลายประการ ที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆ ไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหรา สวยงาม เบาสบาย อ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่าย แต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือ สมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลม ในขณะที่ไอน้ำ ยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่าย โดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆ ซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่ง กับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬา เพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็ว ผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆ โดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรี รวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่า เราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียว นั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึง ภูมิปัญญาของมนุษย์ ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือ ความคาดคิดเมื่อในอดีต กลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
“เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตร เป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มี
นอกจากนี้ เส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุน ที่เล็กด้วย ส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพ ที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็ก มากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน รูปที่ 2 เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ สำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ผ้าปิดแผล ระบบนำส่งยา ระบบการกรองอย่างละเอียด เป็นต้น
จะผลิตเส้นใยนาโนได้อย่างไร
เทคนิคที่นำมาใช้ในการเตรียมเส้นใยนาโนมีหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีการมีข้อ ดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เทคนิคอิเล็กโตรสปินนิง (electrospinning) หรือ การปั่นเส้นใยด้วยไฟฟ้าสถิตเป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถใช้เตรียมเส้นใยนาโน ของวัสดุพอลิเมอร์และสารอนินทรีย์ออกไซด์หลากหลายชนิดสำหรับประยุกต์ใช้ใน ทางการแพทย์ เภสัชกรรม วิศวกรรม การทหาร และอื่นๆ
อิเล็กโตรสปินนิงเป็นวิธีประดิษฐ์เส้นใยนาโนที่ได้รับความสนใจและใช้กัน อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สามารถประดิษฐ์เส้นใยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10 นาโนเมตร ถึงมากกว่า 1 ไมโครเมตร [2] โดยอาศัยแรงทางไฟฟ้าที่เกิดจากศักย์ไฟฟ้ากำลังสูง สำหรับระบบพื้นฐานมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญเพียง 3 ส่วน [3] คือ แหล่งกำเนิดศักย์ไฟฟ้ากำลังสูง (high voltage power supply) หลอดบรรจุสารละลายที่ติดเข็มโลหะ (syringe with needle) และวัสดุรองรับที่เป็นโลหะ (metal collector) (รูปที่ 3) จัดเป็นระบบที่ไม่มีความซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายน้อย และใช้งานได้สะดวก ทั้งนี้ในระบบที่พัฒนาให้ดีขึ้น สามารถเพิ่มอุปกรณ์สำหรับควบคุมการไหลของสารละลาย (syringe pump) และทำให้การประดิษฐ์เส้นใยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กล่าวคือ สามารถควบคุมขนาดและปริมาณการเกิดเส้นใยได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
หากลองนับย้อนไปถึง ที่มาของเส้นใยประดิษฐ์ ที่เราได้ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ จะพบว่า มนุษย์ได้ใช้ความพยายาม ในการพัฒนามาเป็นเวลานานมากทีเดียว นับจากปี ค.ศ. 1664 ที่ โรเบิร์ต ฮุก (Robert Hooke) นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ได้จุดประกายแนวความคิดไว้ว่า “การผลิตเส้นใยประดิษฐ์ สามารถทำได้โดยการอัดรีด ของเหลวผ่านรูเล็กๆ ให้เป็นเส้นยาวอย่างต่อเนื่อง แล้วทิ้งให้เย็นหรือแข็งตัว” แต่กว่ามนุษย์จะผลิตเรยอน (Rayon) ซึ่งเป็นเส้นใยประดิษฐ์ ชนิดแรกได้สำเร็จ ก็ต้องใช้เวลาอีกกว่า 200 ปีต่อมา หลังจากนั้นวิวัฒนาการ ของการผลิตเส้นใยชนิดต่างๆ อาทิ ไนลอน พอลิเอสเทอร์ อะคริลิก ไลโอเซลล์ และเส้นใยอื่นๆ จึงได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
การพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียด หรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่า เส้นใยไหมมาก กล่าวกันมา ด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์ บางชนิดนั้นสามารถนำมา พันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์ และไนลอน การนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้น อาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมด หรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มี สมบัติพิเศษหลายประการ ที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆ ไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหรา สวยงาม เบาสบาย อ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่าย แต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือ สมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลม ในขณะที่ไอน้ำ ยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่าย โดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆ ซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่ง กับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬา เพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็ว ผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆ โดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรี รวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่า เราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียว นั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึง ภูมิปัญญาของมนุษย์ ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือ ความคาดคิดเมื่อในอดีต กลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
“เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตร เป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มี
นอกจากนี้ เส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุน ที่เล็กด้วย ส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพ ที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็ก มากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน รูปที่ 2 เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ สำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ผ้าปิดแผล ระบบนำส่งยา ระบบการกรองอย่างละเอียด เป็นต้น
จะผลิตเส้นใยนาโนได้อย่างไร
เทคนิคที่นำมาใช้ในการเตรียมเส้นใยนาโนมีหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีการมีข้อ ดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เทคนิคอิเล็กโตรสปินนิง (electrospinning) หรือ การปั่นเส้นใยด้วยไฟฟ้าสถิตเป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถใช้เตรียมเส้นใยนาโน ของวัสดุพอลิเมอร์และสารอนินทรีย์ออกไซด์หลากหลายชนิดสำหรับประยุกต์ใช้ใน ทางการแพทย์ เภสัชกรรม วิศวกรรม การทหาร และอื่นๆ
อิเล็กโตรสปินนิงเป็นวิธีประดิษฐ์เส้นใยนาโนที่ได้รับความสนใจและใช้กัน อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สามารถประดิษฐ์เส้นใยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10 นาโนเมตร ถึงมากกว่า 1 ไมโครเมตร [2] โดยอาศัยแรงทางไฟฟ้าที่เกิดจากศักย์ไฟฟ้ากำลังสูง สำหรับระบบพื้นฐานมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญเพียง 3 ส่วน [3] คือ แหล่งกำเนิดศักย์ไฟฟ้ากำลังสูง (high voltage power supply) หลอดบรรจุสารละลายที่ติดเข็มโลหะ (syringe with needle) และวัสดุรองรับที่เป็นโลหะ (metal collector) (รูปที่ 3) จัดเป็นระบบที่ไม่มีความซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายน้อย และใช้งานได้สะดวก ทั้งนี้ในระบบที่พัฒนาให้ดีขึ้น สามารถเพิ่มอุปกรณ์สำหรับควบคุมการไหลของสารละลาย (syringe pump) และทำให้การประดิษฐ์เส้นใยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กล่าวคือ สามารถควบคุมขนาดและปริมาณการเกิดเส้นใยได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
Pitchaya- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายปริณณา บุญแก้วอมร 115310452219-4 [TFE 53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
ไมโครไฟเบอร์ คือการพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจกันอย่างมากในยุคนี้ก็คือ เทคโนโลยีการผลิตเส้นใย ให้มีความละเอียดหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์ (microfiber) ค่าความละเอียดของไมโครไฟเบอร์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 เดซิเทกซ์ (decitex) นั่นก็คือ ถ้าวัดความยาวมา
10 กิโลเมตร เส้นใยดังกล่าวต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัม ซึ่งนับว่ามีความละเอียดกว่าเส้นใยไหมมากกล่าวกันมาด้วยน้ำหนัก 1 ปอนด์ของไมโครไฟเบอร์บางชนิดนั้นสามารถนำมาพันรอบโลกได้เลยทีเดียว
เส้นใยที่ผลิตขึ้นด้วย เทคโนโลยีของไมโครไฟเบอร์ มีด้วยกันหลายชนิด เช่น อะคริลิก เรยอน พอลิโพรพิลีน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พอลิเอสเทอร์และไนลอนการนำมาถักทอเป็นผืนผ้านั้นอาจทำจากไมโครไฟเบอร์ทั้งหมดหรือเป็นการผสมร่วมกับ เส้นใยชนิดอื่นก็ได้ ผ้าที่ผลิตขึ้นจากไมโครไฟเบอร์ จัดเป็นผ้าที่มีสมบัติพิเศษหลายประการที่เหนือกว่าผ้าที่ผลิตจากเส้นใยทั่วๆไป นับจากรูปลักษณ์ภายนอก จนกระทั่งได้ใช้งาน ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราสวยงามเบาสบายอ่อนนุ่ม และดูแลรักษาง่ายแต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติในการสะท้อนน้ำและกันลมในขณะที่ไอน้ำยังคงสามารถซึมผ่านเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งด้วยสารเคมีใดๆซึ่งเป็นสมบัติที่เหมาะอย่างยิ่งกับการตัดเย็บเป็นชุดกีฬาเพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วผู้สวมใส่จึงรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นชุดอื่นๆโดยเฉพาะชุดแฟชั่นสตรีรวมถึงผ้าที่ใช้ในการตกแต่งต่างๆ
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไมโครไฟเบอร์ ในปัจจุบันทำให้พบว่าเราได้มายืนอยู่ในจุดที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่โรเบิร์ต ฮุก เคยวาดฝันไว้มากทีเดียวนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สามารถทำให้เรื่องที่เคยอยู่เหนือความคาดคิดเมื่อในอดีตกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงได้
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ คือ “เส้น ใยนาโน (nanofiber)” เป็นเส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร ถึงระดับ 100 นาโนเมตร ทำให้มีข้อดีคือ มีอัตราส่วนระหว่างพื้นผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง เช่น เส้นใยนาโนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นาโนเมตร จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอัตราส่วนพื้นผิวตามความยาวของเส้นใยต่อปริมาตรเป็น 1,000 เท่าของเส้นผมที่มีเส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุนที่เล็กด้วยส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็กมากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางดังใน เช่น การประยุกต์ใช้งานของเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษและมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสำหรับงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อผ้าปิดแผลระบบนำส่งยาระบบการกรองอย่างละเอียด
parinya- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นายพนา ควรสงวน 115310452216-0 [53145TFE]
Microfiber
Microfiber คือเส้นใยที่เล็กมาก มีขนาดน้อยกว่า 1 Denier มีค่าความละเอียดน้อยกว่า1 Decitex ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าเส้นใยไหมมาก เส้นใยMicrofiber จะมีลักษณะภาพตัดขวางดังรูป
ภาพเปรียบเทียบระหว่างเส้มผมกับเส้ยใยMicrofiber
Microfiber ส่วนใหญ่ผลิตจาก Polyester และ Polyamide ด้วยกระบวนการ Meltting Spinning Microfiberมีความหลากหลายในด้านการใช้งานโดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โดยจะมีคุณสมบัติพิเศษคือนุ่มและเกาะรวมกันได้เป็นอย่างดี ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงที่ผ่านขบวนการทอที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ จะมีคุณสมบัติพิเศษในการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ. ผ้าไมโครไฟเบอร์สามารถซับน้ำได้ถึง 7 เท่าของน้ำหนักของผ้า ทั้งยังสามารถดูดซับน้ำมัน และไม่แข็งกระด้างซึ่งไม่ทำให้ผิวสีของวัสดุที่ทำความสะอาดเป็นรอย ดังรูปเป็นลักษณะของเส้นใยMicrofiberกับเส้นใยทั่วไป จะเห็นได้ว่าเส้นใยMicrofiberสามารถกักเก็บฝุ่นไว้ในตัวเส้นใยได้ทำให้มีความสามารถในการทำความสะอาดดีกว่าเส้นใยทั่วไป
Nanofiber
Nanofiber เป็นโครงสร้างนาโนของวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยของของแข็งที่อยู่ในกลุ่มของสารอินทรีย์ และมีขนาดเล็กระดับนาโนเมตรโดยเส้นใยนาโนนี้ต้องเป็นเส้นใยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วงระหว่าง 1-100 นาโนเมตร (เส้นใยนาโนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นาโนเมตรจะประกอบไปด้วยโมเลกุลของธาตุประมาณ 40 โมเลกุล และประมาณ 20 โมเลกุลนั้นเป็นส่วนที่เป็นพื้นผิวของเส้นใยนาโน) โดยมากแล้วโครงสร้างวัสดุต่างๆที่อยู่ในลักษณะของเส้นใย จะเป็นลักษณะของโครงสร้างพื้นฐานที่ ทำให้เกิดโครงสร้างที่มีพื้นที่ผิวที่มีความจำเพาะสูง คือเป็นพื้นผิวที่ทำปฏิกิริยากับหมู่ฟังก์ชันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น เป็นโครงสร้างที่มีความสามารถในการยืดหยุ่นได้ดี มีความแข็งแกร่งและความทนทานที่สูงขึ้น ดังรูป
นอกจากนี้ เส้นใยนาโนจะมีขนาดของรูพรุน ที่เล็กด้วย ส่งผลทำให้มีสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น สมบัติเชิงกล สมบัติทางไฟฟ้า หรือสมบัติทางชีวภาพ ที่ดีมากเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้านซึ่งต้องการความได้เปรียบของขนาดที่เล็ก มากๆ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาใช้ประดิษฐ์ ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์ใช้เส้นใยนาโนทางด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่นงานทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ผ้าปิดแผล ระบบนำส่งยา ระบบการกรองอย่างละเอียด เป็นต้น
วิธีการผลิตNanofiber
การผลิตNanofiberจะใช้เทคนิคอิเล็กโตรสปินนิง (Electrospinning) หรือ การปั่นเส้นใยด้วยไฟฟ้าสถิตเป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถใช้เตรียมเส้นใยนาโน ของวัสดุพอลิเมอร์และสารอนินทรีย์ออกไซด์หลากหลายชนิดสำหรับประยุกต์ใช้ใน ทางการแพทย์ เภสัชกรรม วิศวกรรม การทหาร และอื่นๆ
อิเล็กโตรสปินนิงเป็นวิธีประดิษฐ์เส้นใยนาโนที่ได้รับความสนใจและใช้กัน อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สามารถประดิษฐ์เส้นใยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10 นาโนเมตร ถึงมากกว่า 1 ไมโครเมตร โดยอาศัยแรงทางไฟฟ้าที่เกิดจากศักย์ไฟฟ้ากำลังสูง สำหรับระบบพื้นฐานมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญเพียง 3 ส่วน คือ แหล่งกำเนิดศักย์ไฟฟ้ากำลังสูง (High Voltage Power Supply) หลอดบรรจุสารละลายที่ติดเข็มโลหะ (Syringe With Needle) และวัสดุรองรับที่เป็นโลหะ (Metal Collector) จัดเป็นระบบที่ไม่มีความซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายน้อย และใช้งานได้สะดวก ทั้งนี้ในระบบที่พัฒนาให้ดีขึ้น สามารถเพิ่มอุปกรณ์สำหรับควบคุมการไหลของสารละลาย (Syringe Pump) และทำให้การประดิษฐ์เส้นใยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กล่าวคือ สามารถควบคุมขนาดและปริมาณการเกิดเส้นใยได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น ดังรูป
Cradit นายพนา ควรสงวน [KORNz]
kornkungzaaa- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นางสาวพัชรา วันมา 115310452238-4 [53145TFE]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์เป็นเล็กและละเอียดกว่าเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติถึง 10 เท่า มีหน่วยวัดความละเอียดเป็นดีเนียร์ (Denier) ซึ่งเป็นมาตรวัดความหนาแน่นมวลเชิงเส้น (Linear mass density) หมายถึง ค่าน้ำหนักหน่วยเป็นกรัมต่อเส้นใย (Fibre) ที่มีความยาว 9.0 เมตร
ทางสหภาพยุโรปกำหนดมาตรฐานของไมโครไฟเบอร์ไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 1 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 1 Denier = Microfibre) ส่วนมาตรฐานในประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 0.6 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 0.6 Denier = Microfibre) และหากมีค่ามากกว่า 0.3 ดีเนียร์ จัดเป็นไมโครไฟเบอร์ชนิดพิเศษ (> 0.3 Denier = Ultra Microfibre)
คุณสมบัติของผ้าไมโครไฟเบอร์จะอ่อนนุ่มกว่าผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติทั่วไป ประโยชน์มักจะนำมาทำความสะอาดพื้นผิวเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย เนื่องจากเบาแรง ไม่เป็นขน เช็ดลื่น ซับน้ำได้ดีเยี่ยม สามารถเช็ดคราบสกปรกให้สะอาดหมดจดในการเช็ดเพียงครั้งเดียว ทนทานต่อการชะล้างมากกว่าเส้นใยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถหลอมละลายและนำกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแม้ว่าจะใช้งานจนเก่าหรือเสื่อมคุณภาพไปแล้วก็ตาม
และเนื่องจากไมโครไฟเบอร์คือเส้นใยขนาดเล็กและบางมาก จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นผงที่มีขนาดเล็กได้ โดยสามารถกำจัดฝุ่นผงและคราบสกปรกได้ 98% และลดแบคทีเรียได้กว่า 99.99% และยังใช้ได้กับหลายพื้นผิว เช่น พลาสติก ไม้ แก้ว เป็นต้น
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ cat cat
เส้นใยนาโน เป็นโครงสร้างนาโนของวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยของของแข็งที่อยู่ในกลุ่มของสารอินทรีย์ และมีขนาดเล็กระดับนาโนเมตร โดยเส้นใยนาโนนี้ต้องเป็นเส้นใยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วงระหว่าง 1 - 100 นาโนเมตร (เส้นใยนาโนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นาโนเมตรจะประกอบไปด้วยโมเลกุลของธาตุประมาณ 40 โมเลกุล และประมาณ 20 โมเลกุลนั้นเป็นส่วนที่เป็นพื้นผิวของเส้นใยนาโน) โดยมากแล้วโครงสร้างวัสดุต่างๆที่อยู่ในลักษณะของเส้นใย จะเป็นลักษณะของโครงสร้างพื้นฐานที่ ทำให้เกิดโครงสร้างที่มีพื้นที่ผิวที่มีความจำเพาะสูง คือเป็นพื้นผิวที่ทำปฏิกิริยากับหมู่ฟังก์ชันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น เป็นโครงสร้างที่มีความสามารถในการยืดหยุ่นได้ดี มีความแข็งแกร่งและความทนทานที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายด้าน
แต่แท้ที่จริงแล้ว วัสดุที่มีลักษณะเป็นเส้นใยระดับนาโนนี้ ก็เป็นหน่วยโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เส้นใยโปรตีนซึ่งเป็นส่วนที่ให้โครงร่างแก่เซลล์ (cytoskeleton filament) ที่ประกอบไปด้วยเส้นใยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 นาโนเมตร เซลล์แท่ง (rod cell) ที่อยู่ภายในลูกนัยน์ตาที่ใช้เม็ดสีโรดอปซิน (rhodopsin) ในการรับแสงมืดทึบ (โรดอปซินมีขนาดประมาณ 4-6 นาโนเมตร) เป็นต้น (นั่นคือเส้นใยนาโนก็มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้วเช่นเดียวกัน) และด้วยความสามารถเชิงหน้าที่ภายในเซลล์ทั้งหลายของเส้นใยเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น การเป็นคลังเก็บรักษาพลังงาน เก็บรวบรวมข้อมูล และกู้ข้อมูล การซ่อมแซมตัวเองภายในเนื้อเยื่อ และประสาทการรับสัมผัสต่างๆ จึงนำมาสู่การออกแบบเพื่อสังเคราะห์เส้นใยนาโนเพื่อนำมาใช้ในลักษณะเดียวกันด้วย
เส้นใยนาโนสังเคราะห์ที่มีการสังเคราะห์ขึ้นมานั้น โดยมากจะถูกสังเคราะห์เพื่อนำมาใช้งานด้วยคุณสมบัติพิเศษทางด้านการนำไฟฟ้า และคุณสมบัติเชิงกลของโครงสร้างนี้ เช่น การสังเคราะห์เส้นใยนาโนพอลิเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะนำมาใช้ในการผลิตและสร้างอุปกรณ์ระดับนาโนทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า สร้างตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ ไดโอด และนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล หรือใช้ในระบบการส่งผ่านข้อมูล เช่น การสร้างหน่วยความจำและชิพสำหรับคอมพิวเตอร์ และการสังเคราะห์เส้นใยวัสดุผสมระดับนาโน เพื่อนำมาใช้เตรียมหน่วยโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างอุปกรณ์ และโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานของมนุษย์ได้ เช่นการนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการแปลงรูปพลังานและการกักเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่หรือในเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) หรือใช้เป็นส่วนผสมในเชิงโครงสร้างสำหรับใช้งานในเทคโนโลยีการบินทั้งในอากาศและในอวกาศ หรือแม้กระทั่งประยุกต์ใช้สำหรับระบบการขนส่งยา และเกี่ยวกับประโยชน์ทางวิศวกรรมเนื้อเยื่อ
ไมโครไฟเบอร์เป็นเล็กและละเอียดกว่าเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติถึง 10 เท่า มีหน่วยวัดความละเอียดเป็นดีเนียร์ (Denier) ซึ่งเป็นมาตรวัดความหนาแน่นมวลเชิงเส้น (Linear mass density) หมายถึง ค่าน้ำหนักหน่วยเป็นกรัมต่อเส้นใย (Fibre) ที่มีความยาว 9.0 เมตร
ทางสหภาพยุโรปกำหนดมาตรฐานของไมโครไฟเบอร์ไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 1 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 1 Denier = Microfibre) ส่วนมาตรฐานในประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 0.6 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 0.6 Denier = Microfibre) และหากมีค่ามากกว่า 0.3 ดีเนียร์ จัดเป็นไมโครไฟเบอร์ชนิดพิเศษ (> 0.3 Denier = Ultra Microfibre)
คุณสมบัติของผ้าไมโครไฟเบอร์จะอ่อนนุ่มกว่าผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติทั่วไป ประโยชน์มักจะนำมาทำความสะอาดพื้นผิวเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย เนื่องจากเบาแรง ไม่เป็นขน เช็ดลื่น ซับน้ำได้ดีเยี่ยม สามารถเช็ดคราบสกปรกให้สะอาดหมดจดในการเช็ดเพียงครั้งเดียว ทนทานต่อการชะล้างมากกว่าเส้นใยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถหลอมละลายและนำกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแม้ว่าจะใช้งานจนเก่าหรือเสื่อมคุณภาพไปแล้วก็ตาม
และเนื่องจากไมโครไฟเบอร์คือเส้นใยขนาดเล็กและบางมาก จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นผงที่มีขนาดเล็กได้ โดยสามารถกำจัดฝุ่นผงและคราบสกปรกได้ 98% และลดแบคทีเรียได้กว่า 99.99% และยังใช้ได้กับหลายพื้นผิว เช่น พลาสติก ไม้ แก้ว เป็นต้น
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ cat cat
เส้นใยนาโน เป็นโครงสร้างนาโนของวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยของของแข็งที่อยู่ในกลุ่มของสารอินทรีย์ และมีขนาดเล็กระดับนาโนเมตร โดยเส้นใยนาโนนี้ต้องเป็นเส้นใยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วงระหว่าง 1 - 100 นาโนเมตร (เส้นใยนาโนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นาโนเมตรจะประกอบไปด้วยโมเลกุลของธาตุประมาณ 40 โมเลกุล และประมาณ 20 โมเลกุลนั้นเป็นส่วนที่เป็นพื้นผิวของเส้นใยนาโน) โดยมากแล้วโครงสร้างวัสดุต่างๆที่อยู่ในลักษณะของเส้นใย จะเป็นลักษณะของโครงสร้างพื้นฐานที่ ทำให้เกิดโครงสร้างที่มีพื้นที่ผิวที่มีความจำเพาะสูง คือเป็นพื้นผิวที่ทำปฏิกิริยากับหมู่ฟังก์ชันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น เป็นโครงสร้างที่มีความสามารถในการยืดหยุ่นได้ดี มีความแข็งแกร่งและความทนทานที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายด้าน
แต่แท้ที่จริงแล้ว วัสดุที่มีลักษณะเป็นเส้นใยระดับนาโนนี้ ก็เป็นหน่วยโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เส้นใยโปรตีนซึ่งเป็นส่วนที่ให้โครงร่างแก่เซลล์ (cytoskeleton filament) ที่ประกอบไปด้วยเส้นใยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 นาโนเมตร เซลล์แท่ง (rod cell) ที่อยู่ภายในลูกนัยน์ตาที่ใช้เม็ดสีโรดอปซิน (rhodopsin) ในการรับแสงมืดทึบ (โรดอปซินมีขนาดประมาณ 4-6 นาโนเมตร) เป็นต้น (นั่นคือเส้นใยนาโนก็มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้วเช่นเดียวกัน) และด้วยความสามารถเชิงหน้าที่ภายในเซลล์ทั้งหลายของเส้นใยเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น การเป็นคลังเก็บรักษาพลังงาน เก็บรวบรวมข้อมูล และกู้ข้อมูล การซ่อมแซมตัวเองภายในเนื้อเยื่อ และประสาทการรับสัมผัสต่างๆ จึงนำมาสู่การออกแบบเพื่อสังเคราะห์เส้นใยนาโนเพื่อนำมาใช้ในลักษณะเดียวกันด้วย
เส้นใยนาโนสังเคราะห์ที่มีการสังเคราะห์ขึ้นมานั้น โดยมากจะถูกสังเคราะห์เพื่อนำมาใช้งานด้วยคุณสมบัติพิเศษทางด้านการนำไฟฟ้า และคุณสมบัติเชิงกลของโครงสร้างนี้ เช่น การสังเคราะห์เส้นใยนาโนพอลิเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะนำมาใช้ในการผลิตและสร้างอุปกรณ์ระดับนาโนทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า สร้างตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ ไดโอด และนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล หรือใช้ในระบบการส่งผ่านข้อมูล เช่น การสร้างหน่วยความจำและชิพสำหรับคอมพิวเตอร์ และการสังเคราะห์เส้นใยวัสดุผสมระดับนาโน เพื่อนำมาใช้เตรียมหน่วยโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างอุปกรณ์ และโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานของมนุษย์ได้ เช่นการนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการแปลงรูปพลังานและการกักเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่หรือในเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) หรือใช้เป็นส่วนผสมในเชิงโครงสร้างสำหรับใช้งานในเทคโนโลยีการบินทั้งในอากาศและในอวกาศ หรือแม้กระทั่งประยุกต์ใช้สำหรับระบบการขนส่งยา และเกี่ยวกับประโยชน์ทางวิศวกรรมเนื้อเยื่อ
pachara wanma- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
นาย ศุภศิษฐ์ อิสาน รหัส 115310452206-1 [TFE53145]
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์เป็นเล็กและละเอียดกว่าเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติถึง 10 เท่า มีหน่วยวัดความละเอียดเป็นดีเนียร์ (Denier) ซึ่งเป็นมาตรวัดความหนาแน่นมวลเชิงเส้น (Linear mass density) หมายถึง ค่าน้ำหนักหน่วยเป็นกรัมต่อเส้นใย (Fibre) ที่มีความยาว 9.0 เมตร
ทางสหภาพยุโรปกำหนดมาตรฐานของไมโครไฟเบอร์ไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 1 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 1 Denier = Microfibre) ส่วนมาตรฐานในประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 0.6 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 0.6 Denier = Microfibre) และหากมีค่ามากกว่า 0.3 ดีเนียร์ จัดเป็นไมโครไฟเบอร์ชนิดพิเศษ (> 0.3 Denier = Ultra Microfibre)
คุณสมบัติของผ้าไมโครไฟเบอร์จะอ่อนนุ่มกว่าผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติทั่วไป ประโยชน์มักจะนำมาทำความสะอาดพื้นผิวเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย เนื่องจากเบาแรง ไม่เป็นขน เช็ดลื่น ซับน้ำได้ดีเยี่ยม สามารถเช็ดคราบสกปรกให้สะอาดหมดจดในการเช็ดเพียงครั้งเดียว ทนทานต่อการชะล้างมากกว่าเส้นใยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถหลอมละลายและนำกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแม้ว่าจะใช้งานจนเก่าหรือเสื่อมคุณภาพไปแล้วก็ตาม
และเนื่องจากไมโครไฟเบอร์คือเส้นใยขนาดเล็กและบางมาก จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นผงที่มีขนาดเล็กได้ โดยสามารถกำจัดฝุ่นผงและคราบสกปรกได้ 98% และลดแบคทีเรียได้กว่า 99.99% และยังใช้ได้กับหลายพื้นผิว เช่น พลาสติก ไม้ แก้ว เป็นต้น
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ cat cat
เส้นใยนาโน เป็นโครงสร้างนาโนของวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยของของแข็งที่อยู่ในกลุ่มของสารอินทรีย์ และมีขนาดเล็กระดับนาโนเมตร โดยเส้นใยนาโนนี้ต้องเป็นเส้นใยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วงระหว่าง 1 - 100 นาโนเมตร (เส้นใยนาโนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นาโนเมตรจะประกอบไปด้วยโมเลกุลของธาตุประมาณ 40 โมเลกุล และประมาณ 20 โมเลกุลนั้นเป็นส่วนที่เป็นพื้นผิวของเส้นใยนาโน) โดยมากแล้วโครงสร้างวัสดุต่างๆที่อยู่ในลักษณะของเส้นใย จะเป็นลักษณะของโครงสร้างพื้นฐานที่ ทำให้เกิดโครงสร้างที่มีพื้นที่ผิวที่มีความจำเพาะสูง คือเป็นพื้นผิวที่ทำปฏิกิริยากับหมู่ฟังก์ชันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น เป็นโครงสร้างที่มีความสามารถในการยืดหยุ่นได้ดี มีความแข็งแกร่งและความทนทานที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายด้าน
แต่แท้ที่จริงแล้ว วัสดุที่มีลักษณะเป็นเส้นใยระดับนาโนนี้ ก็เป็นหน่วยโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เส้นใยโปรตีนซึ่งเป็นส่วนที่ให้โครงร่างแก่เซลล์ (cytoskeleton filament) ที่ประกอบไปด้วยเส้นใยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 นาโนเมตร เซลล์แท่ง (rod cell) ที่อยู่ภายในลูกนัยน์ตาที่ใช้เม็ดสีโรดอปซิน (rhodopsin) ในการรับแสงมืดทึบ (โรดอปซินมีขนาดประมาณ 4-6 นาโนเมตร) เป็นต้น (นั่นคือเส้นใยนาโนก็มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้วเช่นเดียวกัน) และด้วยความสามารถเชิงหน้าที่ภายในเซลล์ทั้งหลายของเส้นใยเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น การเป็นคลังเก็บรักษาพลังงาน เก็บรวบรวมข้อมูล และกู้ข้อมูล การซ่อมแซมตัวเองภายในเนื้อเยื่อ และประสาทการรับสัมผัสต่างๆ จึงนำมาสู่การออกแบบเพื่อสังเคราะห์เส้นใยนาโนเพื่อนำมาใช้ในลักษณะเดียวกันด้วย
เส้นใยนาโนสังเคราะห์ที่มีการสังเคราะห์ขึ้นมานั้น โดยมากจะถูกสังเคราะห์เพื่อนำมาใช้งานด้วยคุณสมบัติพิเศษทางด้านการนำไฟฟ้า และคุณสมบัติเชิงกลของโครงสร้างนี้ เช่น การสังเคราะห์เส้นใยนาโนพอลิเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะนำมาใช้ในการผลิตและสร้างอุปกรณ์ระดับนาโนทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า สร้างตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ ไดโอด และนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล หรือใช้ในระบบการส่งผ่านข้อมูล เช่น การสร้างหน่วยความจำและชิพสำหรับคอมพิวเตอร์ และการสังเคราะห์เส้นใยวัสดุผสมระดับนาโน เพื่อนำมาใช้เตรียมหน่วยโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างอุปกรณ์ และโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานของมนุษย์ได้ เช่นการนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการแปลงรูปพลังานและการกักเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่หรือในเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) หรือใช้เป็นส่วนผสมในเชิงโครงสร้างสำหรับใช้งานในเทคโนโลยีการบินทั้งในอากาศและในอวกาศ หรือแม้กระทั่งประยุกต์ใช้สำหรับระบบการขนส่งยา และเกี่ยวกับประโยชน์ทางวิศวกรรมเนื้อเยื่อ
ไมโครไฟเบอร์เป็นเล็กและละเอียดกว่าเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติถึง 10 เท่า มีหน่วยวัดความละเอียดเป็นดีเนียร์ (Denier) ซึ่งเป็นมาตรวัดความหนาแน่นมวลเชิงเส้น (Linear mass density) หมายถึง ค่าน้ำหนักหน่วยเป็นกรัมต่อเส้นใย (Fibre) ที่มีความยาว 9.0 เมตร
ทางสหภาพยุโรปกำหนดมาตรฐานของไมโครไฟเบอร์ไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 1 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 1 Denier = Microfibre) ส่วนมาตรฐานในประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ว่า หากมีค่ามากกว่า 0.6 ดีเนียร์ จัดว่าเป็นไมโครไฟเบอร์ (> 0.6 Denier = Microfibre) และหากมีค่ามากกว่า 0.3 ดีเนียร์ จัดเป็นไมโครไฟเบอร์ชนิดพิเศษ (> 0.3 Denier = Ultra Microfibre)
คุณสมบัติของผ้าไมโครไฟเบอร์จะอ่อนนุ่มกว่าผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติทั่วไป ประโยชน์มักจะนำมาทำความสะอาดพื้นผิวเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย เนื่องจากเบาแรง ไม่เป็นขน เช็ดลื่น ซับน้ำได้ดีเยี่ยม สามารถเช็ดคราบสกปรกให้สะอาดหมดจดในการเช็ดเพียงครั้งเดียว ทนทานต่อการชะล้างมากกว่าเส้นใยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถหลอมละลายและนำกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแม้ว่าจะใช้งานจนเก่าหรือเสื่อมคุณภาพไปแล้วก็ตาม
และเนื่องจากไมโครไฟเบอร์คือเส้นใยขนาดเล็กและบางมาก จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นผงที่มีขนาดเล็กได้ โดยสามารถกำจัดฝุ่นผงและคราบสกปรกได้ 98% และลดแบคทีเรียได้กว่า 99.99% และยังใช้ได้กับหลายพื้นผิว เช่น พลาสติก ไม้ แก้ว เป็นต้น
นาโนไฟเบอร์
นาโนไฟเบอร์ cat cat
เส้นใยนาโน เป็นโครงสร้างนาโนของวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยของของแข็งที่อยู่ในกลุ่มของสารอินทรีย์ และมีขนาดเล็กระดับนาโนเมตร โดยเส้นใยนาโนนี้ต้องเป็นเส้นใยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วงระหว่าง 1 - 100 นาโนเมตร (เส้นใยนาโนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นาโนเมตรจะประกอบไปด้วยโมเลกุลของธาตุประมาณ 40 โมเลกุล และประมาณ 20 โมเลกุลนั้นเป็นส่วนที่เป็นพื้นผิวของเส้นใยนาโน) โดยมากแล้วโครงสร้างวัสดุต่างๆที่อยู่ในลักษณะของเส้นใย จะเป็นลักษณะของโครงสร้างพื้นฐานที่ ทำให้เกิดโครงสร้างที่มีพื้นที่ผิวที่มีความจำเพาะสูง คือเป็นพื้นผิวที่ทำปฏิกิริยากับหมู่ฟังก์ชันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น เป็นโครงสร้างที่มีความสามารถในการยืดหยุ่นได้ดี มีความแข็งแกร่งและความทนทานที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายด้าน
แต่แท้ที่จริงแล้ว วัสดุที่มีลักษณะเป็นเส้นใยระดับนาโนนี้ ก็เป็นหน่วยโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เส้นใยโปรตีนซึ่งเป็นส่วนที่ให้โครงร่างแก่เซลล์ (cytoskeleton filament) ที่ประกอบไปด้วยเส้นใยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 นาโนเมตร เซลล์แท่ง (rod cell) ที่อยู่ภายในลูกนัยน์ตาที่ใช้เม็ดสีโรดอปซิน (rhodopsin) ในการรับแสงมืดทึบ (โรดอปซินมีขนาดประมาณ 4-6 นาโนเมตร) เป็นต้น (นั่นคือเส้นใยนาโนก็มีอยู่ในระบบธรรมชาติอยู่แล้วเช่นเดียวกัน) และด้วยความสามารถเชิงหน้าที่ภายในเซลล์ทั้งหลายของเส้นใยเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น การเป็นคลังเก็บรักษาพลังงาน เก็บรวบรวมข้อมูล และกู้ข้อมูล การซ่อมแซมตัวเองภายในเนื้อเยื่อ และประสาทการรับสัมผัสต่างๆ จึงนำมาสู่การออกแบบเพื่อสังเคราะห์เส้นใยนาโนเพื่อนำมาใช้ในลักษณะเดียวกันด้วย
เส้นใยนาโนสังเคราะห์ที่มีการสังเคราะห์ขึ้นมานั้น โดยมากจะถูกสังเคราะห์เพื่อนำมาใช้งานด้วยคุณสมบัติพิเศษทางด้านการนำไฟฟ้า และคุณสมบัติเชิงกลของโครงสร้างนี้ เช่น การสังเคราะห์เส้นใยนาโนพอลิเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะนำมาใช้ในการผลิตและสร้างอุปกรณ์ระดับนาโนทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า สร้างตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ ไดโอด และนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล หรือใช้ในระบบการส่งผ่านข้อมูล เช่น การสร้างหน่วยความจำและชิพสำหรับคอมพิวเตอร์ และการสังเคราะห์เส้นใยวัสดุผสมระดับนาโน เพื่อนำมาใช้เตรียมหน่วยโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างอุปกรณ์ และโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานของมนุษย์ได้ เช่นการนำมาใช้งานทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการแปลงรูปพลังานและการกักเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่หรือในเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) หรือใช้เป็นส่วนผสมในเชิงโครงสร้างสำหรับใช้งานในเทคโนโลยีการบินทั้งในอากาศและในอวกาศ หรือแม้กระทั่งประยุกต์ใช้สำหรับระบบการขนส่งยา และเกี่ยวกับประโยชน์ทางวิศวกรรมเนื้อเยื่อ
toffee_fiber- จำนวนข้อความ : 2
Join date : 27/06/2011
Similar topics
» การบ้านครั้งที่ 2 เรื่องไมโครไฟเบอร์
» การบ้านครั้งที่ 1 เรื่องความมันเงาของเส้นใย และผ้า
» การบ้านครั้งที่ 1 เรื่องความมันเงาของเส้นใย และผ้า
» การบ้านครั้งที่ 1 เรื่องความมันเงาของเส้นใย และผ้า
» การบ้านครั้งที่ 1 เรื่องความมันเงาของเส้นใย และผ้า
เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ (TTCEXPERT.COM) :: เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ เว็บไซท์สำหรับศิษย์เก่า นักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีสิ่งทอ และผู้สนใจทุกท่าน สอบถามข้อมูล :: ส่งการบ้านวิชา Fiber Science 53145TFE
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|