ตรวจตู้น้ำดื่มแบคทีเรียปนเปื้อนอื้อ
เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ (TTCEXPERT.COM) :: เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ เว็บไซท์สำหรับศิษย์เก่า นักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีสิ่งทอ และผู้สนใจทุกท่าน สอบถามข้อมูล :: สอบถามเรื่องอื่นๆ
หน้า 1 จาก 1
ตรวจตู้น้ำดื่มแบคทีเรียปนเปื้อนอื้อ
ตรวจตู้น้ำดื่มแบคทีเรียปนเปื้อนอื้อ
Jan 12th, 2011
กทม.เผยสุ่มตรวจตู้น้ำดื่มไม่ผ่านมาตรฐาน พบมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน กว่า 7% สภาพตู้สกปรก แจ้งผู้ประกอบการหมั่นทำความสะอาด ขู่ยึดใบอนุญาตหากผิดซ้ำซาก เตือนเจ้าของตู้น้ำขอใบอนุญาตหากฝ่าฝืนจะอายัดเครื่องทันที
ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในเขต กทม.ให้มีมาตรฐานถูกสุขลักษณะว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มจากตู้หยอดเหรียญเมื่อช่วงปลายปี 2553โดยสุ่มตรวจตัวอย่างน้ำดื่มจำนวน 618 ตัวอย่างทั้ง 50 เขตใน กทม. พบการปนเปื้อนของเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำดื่มจำนวน 44 ตัวอย่าง หรือคิดเป็น 7.2% ที่ไม่ได้มาตรฐาน
โดยแจ้งให้ผู้ประกอบการล้างทำความสะอาดตู้และอุปกรณ์ เมื่อนำตัวอย่างน้ำดื่มไปตรวจสอบอีกครั้งก็ไม่พบการปนเปื้อนซ้ำ แต่ถ้ามีตู้ใดที่ปนเปื้อนซ้ำก็จะยึดใบอนุญาตและปิดบริการทันที
นอกจากปัญหาการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดโอกาสที่จะปนเปื้อนเชื้อโรคและเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่าง กายแล้ว ยังพบว่าผู้ประกอบการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญไม่ดูแลรักษาเครื่องให้ สะอาดและมีคราบฝุ่นละอองจับสกปรก ซึ่งปัญหานี้เริ่มมีน้อยลงหลังจาก กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการตู้น้ำดื่มจะต้องขอรับใบอนุญาตจาก กทม. เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้การผลิตน้ำกลั่น น้ำบริโภคเป็นกิจการ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีแนวทางการควบคุมการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเพื่อให้ราชการ ส่วนท้องถิ่นออกข้อกำหนด
“ขณะนี้มีผู้ประกอบกิจการตู้น้ำดื่มจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 1,000 รายที่ไม่ขอรับใบอนุญาตจาก กทม. ซึ่งถือเป็นตู้เถื่อน ไม่เสียค่าธรรมเนียม 2,000 บาทต่อปี และมักจะเคลื่อนย้ายสถานที่ตั้งตู้น้ำหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่ง เป็นปัญหาของแต่ละเขตที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ กทม.มีอำนาจอายัดตู้น้ำที่ผิดกฎหมายได้ โดย กทม.จะมีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการให้ไปขออนุญาตภายใน 7 วัน หากพ้นกำหนดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” ผอ.กองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม.กล่าว
ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญทั่วไปผ่านกระบวนการผลิตน้ำที่เรียกว่า อาร์โอ เป็นการ กรองน้ำให้สะอาดบริสุทธิ์ หากน้ำผ่านการกรองที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยึดหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ผู้บริโภคน้ำก็จะไม่เป็นอันตราย แต่น้ำดื่มปนเปื้อนเชื้อโรคเกิดจากผู้ประกอบกิจการไม่ดูแลรักษาตัวเครื่อง และอุปกรณ์ให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวไส้กรองที่มีอายุการใช้งาน จะต้องทำความสะอาดอย่างดี ตามระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ปล่อยให้เชื้อโรคสะสมหรือตกค้างอยู่ในเครื่อง อีกทั้งเจ้าของเครื่องมักจะดัดแปลงหรือซ่อมแซมตู้น้ำด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคน้ำดื่ม
“คุณภาพของน้ำดื่มนอกจากขึ้นอยู่กับมาตรฐานตู้ผลิตน้ำแล้ว ยังอยู่ที่แหล่ง น้ำดิบที่นำมาใช้ว่าผ่านการฆ่าเชื้อโรคหรือยัง เติมคลอรีนในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ และท่อประปาส่งน้ำมีความแข็งแรงหรือรั่วไหล เพราะถ้าท่อน้ำแตกก็จะทำให้เชื้อโรคพวกจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่เกิดจากซาก พืชซากสัตว์ลอยปนเปื้อนในน้ำด้วย”
ข่าวโดย : ไทยโพสต์
http://www.talkystory.com/?p=6328
Jan 12th, 2011
กทม.เผยสุ่มตรวจตู้น้ำดื่มไม่ผ่านมาตรฐาน พบมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน กว่า 7% สภาพตู้สกปรก แจ้งผู้ประกอบการหมั่นทำความสะอาด ขู่ยึดใบอนุญาตหากผิดซ้ำซาก เตือนเจ้าของตู้น้ำขอใบอนุญาตหากฝ่าฝืนจะอายัดเครื่องทันที
ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในเขต กทม.ให้มีมาตรฐานถูกสุขลักษณะว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มจากตู้หยอดเหรียญเมื่อช่วงปลายปี 2553โดยสุ่มตรวจตัวอย่างน้ำดื่มจำนวน 618 ตัวอย่างทั้ง 50 เขตใน กทม. พบการปนเปื้อนของเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำดื่มจำนวน 44 ตัวอย่าง หรือคิดเป็น 7.2% ที่ไม่ได้มาตรฐาน
โดยแจ้งให้ผู้ประกอบการล้างทำความสะอาดตู้และอุปกรณ์ เมื่อนำตัวอย่างน้ำดื่มไปตรวจสอบอีกครั้งก็ไม่พบการปนเปื้อนซ้ำ แต่ถ้ามีตู้ใดที่ปนเปื้อนซ้ำก็จะยึดใบอนุญาตและปิดบริการทันที
นอกจากปัญหาการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดโอกาสที่จะปนเปื้อนเชื้อโรคและเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่าง กายแล้ว ยังพบว่าผู้ประกอบการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญไม่ดูแลรักษาเครื่องให้ สะอาดและมีคราบฝุ่นละอองจับสกปรก ซึ่งปัญหานี้เริ่มมีน้อยลงหลังจาก กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการตู้น้ำดื่มจะต้องขอรับใบอนุญาตจาก กทม. เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้การผลิตน้ำกลั่น น้ำบริโภคเป็นกิจการ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีแนวทางการควบคุมการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเพื่อให้ราชการ ส่วนท้องถิ่นออกข้อกำหนด
“ขณะนี้มีผู้ประกอบกิจการตู้น้ำดื่มจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 1,000 รายที่ไม่ขอรับใบอนุญาตจาก กทม. ซึ่งถือเป็นตู้เถื่อน ไม่เสียค่าธรรมเนียม 2,000 บาทต่อปี และมักจะเคลื่อนย้ายสถานที่ตั้งตู้น้ำหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่ง เป็นปัญหาของแต่ละเขตที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ กทม.มีอำนาจอายัดตู้น้ำที่ผิดกฎหมายได้ โดย กทม.จะมีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการให้ไปขออนุญาตภายใน 7 วัน หากพ้นกำหนดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” ผอ.กองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม.กล่าว
ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญทั่วไปผ่านกระบวนการผลิตน้ำที่เรียกว่า อาร์โอ เป็นการ กรองน้ำให้สะอาดบริสุทธิ์ หากน้ำผ่านการกรองที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยึดหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ผู้บริโภคน้ำก็จะไม่เป็นอันตราย แต่น้ำดื่มปนเปื้อนเชื้อโรคเกิดจากผู้ประกอบกิจการไม่ดูแลรักษาตัวเครื่อง และอุปกรณ์ให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวไส้กรองที่มีอายุการใช้งาน จะต้องทำความสะอาดอย่างดี ตามระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ปล่อยให้เชื้อโรคสะสมหรือตกค้างอยู่ในเครื่อง อีกทั้งเจ้าของเครื่องมักจะดัดแปลงหรือซ่อมแซมตู้น้ำด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคน้ำดื่ม
“คุณภาพของน้ำดื่มนอกจากขึ้นอยู่กับมาตรฐานตู้ผลิตน้ำแล้ว ยังอยู่ที่แหล่ง น้ำดิบที่นำมาใช้ว่าผ่านการฆ่าเชื้อโรคหรือยัง เติมคลอรีนในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ และท่อประปาส่งน้ำมีความแข็งแรงหรือรั่วไหล เพราะถ้าท่อน้ำแตกก็จะทำให้เชื้อโรคพวกจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่เกิดจากซาก พืชซากสัตว์ลอยปนเปื้อนในน้ำด้วย”
ข่าวโดย : ไทยโพสต์
http://www.talkystory.com/?p=6328
drapichart- Admin
- จำนวนข้อความ : 58
Join date : 27/01/2010
เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ (TTCEXPERT.COM) :: เว็บบอร์ดไทยเคมีสิ่งทอ เว็บไซท์สำหรับศิษย์เก่า นักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีสิ่งทอ และผู้สนใจทุกท่าน สอบถามข้อมูล :: สอบถามเรื่องอื่นๆ
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|